Ionic React Bundle ประกอบด้วย

1. คอร์สออนไลน์ Ionic React Fundamentals (มูลค่า 1,490 บาท) เริ่มเรียนได้ภายใน 24 ชม. หลังการสมัครเสร็จสิ้น
2. Live Workshop Ionic React Fundamentals (มูลค่า 7,900 บาท)

​

สุดพิเศษ 2 ต่อ!!

1. หลักสูตรนี้ได้รับการอุดหนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa Digital Manpower Fund) จากราคาเต็ม 9,390 บาท ผู้เรียนชำระเพียง 3,900 บาทเท่านั้น !!
2. เรียนจบ ทำแบบฝึกหัดครบตามเกณฑ์ที่กำหนด รับทุนสนับสนุนเพิ่มอีก 3,000 บาท เสมือนชำระเพียง 900 บาทเท่านั้น !! (ทางเราจะทำเรื่องคืนเงินหลังจากจบโครงการ)

​

** สำหรับผู้เรียน 100 ท่านแรกเท่านั้น !! จำกัดไม่เกิน 5 คนต่อบริษัทตามเงื่อนไขการอุดหนุนจาก depa

***หากต้องการเรียน React ด้วย สามารถสมัคร Bundle สุดคุ้มได้ที่ >> LINK

​

แจ้งความสนใจเรียนรอบอื่น >> คลิก

หลาย ๆ องค์กรยังมีความยากลำบากในการพัฒนา Website หรือ Application ให้ตรงกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีในตลาด อีกทั้งยังต้องเสียทรัพยากร และเวลาเป็นจำนวนมากในการพัฒนา Application ในแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเสียโอกาสทางธุรกิจก็เป็นได้

​

พบกับแพ็คสุดคุ้ม ที่จะสอนการสร้าง Hybrid Application โดยใช้ Ionic React ที่จะทำให้ Application ของคุณ สามารถทำงานได้ทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ iOS Android จนถึง Browser บน PC ซึ่งจะทำให้คุณและองค์กรของคุณประหยัดเวลา และทรัพยากรในการพัฒนา Application เป็นอย่างมาก

​

Hybrid Application คืออะไร?

Hybrid Application เป็นการพัฒนา Application โดยใช้ภาษาที่ใช้พัฒนา Web เช่น HTML, CSS, JavaScript แต่ก็สามารถดึง Native Feature เช่น กล้อง หรือ GPS และสามารถทำเป็น Application นำไปลง Play Store หรือ App Store ได้ เรียกได้ว่า พัฒนาครั้งเดียว ได้ทุกแพลตฟอร์ม

​

ข้อดีของ Hybrid Application

1. Write Once, Run Anywhere: พัฒนาครั้งเดียว สามารถใช้ได้ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Web App, iOS, Android ฯลฯ
2. Use the Talent You Already Have: ใช้ภาษาที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น HTML, CSS, JavaScript
3. Brand Consistency: สามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้ที่ดี และเท่ากันให้กับทุกคน และทุกแพลตฟอร์ม
4. Build for the Future: เราสามารถมั่นใจได้ว่า App ของเราจะไม่ตกยุค เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามา ก็มักจะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อตาม Web Standard ด้วย

​

Ionic Framework คืออะไร?

Ionic เป็นเครื่องมือ Open Source ที่จะช่วยคุณพัฒนา Hybrid Application และ Progressive Web Application ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยความสามารถที่ได้ Lighthouse PWA Score สูงสุดถึง 100% และยังมีการ Integrate กับ Framework ยอดนิยมตัวอื่น ๆ เช่น Angular, React และ Vue อีกด้วย อีกทั้งยังมีการ Integrate ฟังก์ชั่นต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น Facebook, Firebase, Apple Pay ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINK เพราะเหตุนี้เอง องค์กรใหญ่ระดับโลก เช่น Airbus, EA Games หรือกระทั่ง NASA ถึงเลือกใช้

​

เวิร์คชอปนี้เหมาะสำหรับ

องค์กร หรือ Start-up ที่มีสายอาชีพ Front-End Developer, Software Engineer, Software Developer, Web Programmer, Web Developer ที่สนใจสายงานด้าน Application/Web Application ที่

• ต้องการพัฒนา Application ที่ไม่ต้องใช้ประสิทธิภาพในการทำงานจาก Hardware มากนัก (ตัวอย่างของ App ที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูง เช่น เกม หรือแอปที่เกี่ยวข้องกับ Graphic สูง ๆ ฯลฯ) และต้องการความรวดเร็วในการพัฒนา เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับองค์กรตนเอง โดยไม่เสียประสบการณ์การใช้ของ User
• ต้องการพัฒนา Application ที่ใช้กันเองภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรโดยรวมได้มากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงแพลตฟอร์มของคนในองค์กร
• ต้องการเริ่มพัฒนา Application หรือมีทีมนักพัฒนาไม่เยอะมาก แต่ต้องการพัฒนา Application บนทุกแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องขยายทีม
• ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดเวลาในการทำงาน และต้องการขยายโอกาสในการทำงานของตน

​

สิ่งที่คุณจะได้รับจากเวิร์คชอปนี้

• ออกแบบ และพัฒนา Application โดยใช้เครื่องมือ Ionic ได้
• สามารถนำ Application ขึ้นทุก Platform ได้
• ช่วยให้คุณ และองค์กรของคุณประหยัดเวลา และทรัพยากรในการพัฒนา Application ได้

​

ความรู้พื้นฐาน และการเตรียมตัว

• มีความรู้พื้นฐานวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หรือเทียบเท่า
• มีความสนใจในการทำ Application/Web Application และมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
• มีทักษะในการเขียนโปรแกรม ถ้าเคยใช้ React และเขียน JavaScript (ES6), HTML / CSS มาก่อนจะช่วยให้ติดตามเนื้อหาได้ง่ายขึ้น***

***หากต้องการเรียน React ด้วย สามารถสมัคร Bundle สุดคุ้มได้ที่ >> LINK

​

โดยหลักสูตรนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ CU Innovation Hub และ Skooldio ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)