ในโลกธุรกิจที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจ ทุกธุรกิจต่างต้องการความสามารถในการตัดสินใจที่แม่นยำ และรวดเร็วที่มากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในโลกธุรกิจปัจจุบันได้ การนำหลักการวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน มาประยุกต์ใช้กับข้อมูล และเครื่องมือต่าง ๆ ในปัจจุบันจึงกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมในเรื่องนี้

"Supply Chain and Logistic Analytics" เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อสอนความรู้ที่จำเป็น และการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การพยากรณ์ความต้องการ จนถึงการวางแผนการขนส่ง ครอบคลุมทุกหัวข้อสำคัญเพื่อทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น

Supply Chain and Logistic Analytics คืออะไร ?

คือ การนำเครื่องมือ และเทคนิคการวิเคราะห์กับข้อมูลมาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่าง ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) ในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อประกอบการตัดสินใจ ตั้งแต่ การซื้อสินค้าและวัตถุดิบ (Buy), การผลิตสินค้า และบริการ (Make), การขนส่ง (Move), การเก็บสินค้าคงคลัง (Store), จนไปถึงการวิเคราะห์การขายสินค้า (Sell) ผ่านการเรียนรู้แนวคิดพื้นฐานในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน พร้อมลงมือทำจริงผ่านเทคนิคต่าง ๆ ที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมจริง ไม่ว่าจะเป็น

เพิ่มสภาพคล่องการขาย ด้วยการพยากรณ์ความต้องการ (Demand Forecasting)

รักษาสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานที่จะช่วยลดปัญหาการขาดสต็อกและปัญหาสินค้าค้างสต็อกได้ ด้วยวิธีการนำข้อมูลในอดีต มาทำการพยากรณ์เพื่อคาดการณ์ความต้องการในอนาคตด้วยเทคนิคการพยากรณ์แบบต่าง ๆ พร้อมวิธีการวัดผล และการนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ธุรกิจต่าง ๆ

บริหารทรัพยากรณ์ให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการวางแผนกำลังการผลิต (Capacity Planning)

วางแผนการจัดหาทรัพยากรให้บรรลุตามแผนการผลิต (Master Production Schedule) ที่กำหนดไว้จากการทำ Demand Forecasting เพื่อสร้างแผนความต้องการทรัพยากรให้เหมาะสม และสามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของความต้องการ

ลดต้นทุนการจัดเก็บ ด้วยการจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management)

บริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการเก็บรักษา และการรักษาสินค้าให้พร้อมจำหน่าย ผ่านเทคนิคต่าง ๆ เช่น การคำนวณจุดสั่งซื้อและปริมาณการสั่งซื้อที่คุ้มค่าที่สุดด้วย Economic Order Quantity (EOQ) และ Reorder Point (ROP)

ลดต้นทุนการดำเนินงานด้วย การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management)

จัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงาน ผ่านหลักการ และแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เกียวกับการจัดการ Warehouse เช่น การออกแบบคลังสินค้า (Warehouse Layout Design) และการวางแผนการจัดตั้งคลังสินค้า (Warehouse Location Planning)

ลดต้นทุนการขนส่ง ด้วยการวางแผนการขนส่ง (Transportation Planning)

เรียนรู้เทคนิคพื้นฐานในการวางแผนเส้นทางการขนส่งให้เกิดต้นทุนที่ต่ำที่สุด (Vehicle Route Planning) ผ่าน Excel และแถม Python Script สำหรับ Advanced Techniques มีที่การนำไปใช้จริงในหลาย ๆ องค์กร พร้อมวิธีการใช้งาน

เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้วยการวิเคราะห์การดำเนินงาน (Operation Analysis)

ประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการในห่วงโซ่อุปทาน โดยใช้ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ และเทคนิคต่าง ๆ ในการประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อระบุคอขวด และปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ เช่น การทำ Line Balancing เป็นต้น

คอร์สนี้เหมาะสำหรับ

• Data analysts และ business analyst ด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์
• Operations managers ที่ต้องการเข้าใจและนำการวิเคราะห์มาใช้ในกระบวนการของตนเอง
• นักเรียน และนักศึกษาในสาขาโลจิสติกส์, บริหารธุรกิจ, วิศวกรรมอุตสาหการ, หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
• ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่สนใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานซัพพลายเชนของตนเอง

หลังเรียนจบคุณจะสามารถ

• เข้าใจหลักการพื้นฐาน และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจในกระบวนการต่าง ๆ ของ Supply Chain and Logistics ได้
• สร้างเทคนิคการทำนายยอดขายของสินค้าและบริการได้ (Demand Forecasting) ของตนเองได้
• บริหารจัดการสินค้าคงคลังโดยใช้ข้อมูลตัดสินใจ เช่น การกำหนดจุดสั่งซื้อ และปริมาณสั่งซื้อที่ทำให้เกิดต้นทุนที่ต่ำที่สุด (EOQ)
• เข้าใจหลักการออกแบบ (Warehouse Design) และเลือกสถานที่ (Location Planning) ในการจัดตั้งคลังสินค้าให้เหมาะสม
• วางแผนเส้นทางการขนส่ง (Vehicle Route Planning) ที่มีต้นทุนต่ำที่สุดได้
• คำนวณตัวชี้วัด (Performance Measures) เพื่อติดตามประสิทธิภาพของกระบวนต่าง ๆ ภายในห่วงโซ่อุปทานได้